บันทึกการเรียน
Inclusive Education Experiences Management for Early
Childhood
Childhood
Teacher Justrin Jamtin
Go to Class 09:00
Out to Class 12:20
Activity
วันนี้อาจารย์นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการนำเรื่องราวดีๆ และประสบการณ์
ต่างๆในเรื่อง การบรรจุราชการ ซึ่งหนูสนใจอย่างมากเลยค่ะ เพราะพี่
สาวหนูกำลังมองหาที่จะลงสอบ และวันนี้อาจารย์ก็นัดเรียนรวมกัน
ทั้ง 2 กลุ่ม เนื่องจากอาจารย์ติดธุระ จากนั้นอจารย์ก็มีเทคนิคใน
การนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการใช้ภาพเพื่อทายลักษณะนิสัยของตนเอง
บรรยายเหตุการณ์
โดยอาจารย์ใช้คำถามกระตุ้น คือ วันนี้ครูจะพานักศึกษาไปเที่ยวแถบ
แอฟริกา ซึ่งสัตว์ไม่ได้อยู่ในสวนสัตว์แต่สัตว์อยู่ตามธรรมชาติของเขา
ซึ่งเรานั่งรถมากัน แต่เมื่อถึงแล้วเรานั่งอยู่บนรถไม่ได้ลงมา ทันใด
นั้นเองพวกเราก็เหลือบไปเห็นสิงโตหลายตัวที่กำลังลุมกินม้าลายอยู่
จากภาพที่สิงโตกำลังกินม้าลายอยู่นั้นนักศึกษาเห็นแล้วรู้สึกอย่างไร
คำตอบของหนูคือ ถามว่าสงสารไหมสงสารค่ะ แต่มันเป็นสิ่งที่
ธรรมชาติสร้างขึ้น และเป็นห่วงโซ่อาหาร มันเป็นธรรมดาที่ม้าลาย
ต้องถูกล่า แต่ม้าลายก็เป็นนักล่าสำหรับสัตว์ที่อ่อนแอกว่า ซึ่งจะเป็น
วัฏจักรอย่างนี้เรื่อยๆ
Knowledge
การส่งเสริมทักษะทางภาษา
ซึ่งบรรยากาศห้องเรียนที่ส่งเสริมทักษะทางภาษา เช่น ห้องต้องมีตัว
หนังสือเยอะ มีการส่งเสริมการเล่านิทาน การร้องเพลง การท่องคำ
คล้องจอง เป็นต้น
การวัดความสามารถทางภาษา
-เข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดไหม
-ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วยไหม เช่น พยักหน้า ก้มหน้า
-ถามหาสิ่งต่างๆไหม
-บอกเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไหม เช่น วันนี้หนูมาโรงเรียนกับคุณ
พ่อ
-ใช้คำศัพท์ของตัวเองกับเด็กคนอื่นไหม
การออกเสียงผิด/พูดไม่ชัด
-การพูดตกหล่น เช่น น้องจะพูดว่า หิวข้าว แต่จะพูดว่า ข้าว
-การใช้เสียงหนึ่งแทนอีกเสียง
-ติดอ่าง
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
-ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
-ห้ามบอกเด็กว่า "พูดช้าๆ "ตามสบาย "คิดก่อนพูด"
-อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
-อย่างเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
-ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
-เด้กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน
ทักษะพื้นฐานทางภาษา
-ทักษะการรับรู้เรื่องภาษา
-การแสดงออกทางภาษา
-การสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด
ตัวอย่าง พฤติกรรมการแสดงออกทางภาษา
ความรับผิดชอบของครูปฐมวัย
-การรับรู้ภาษามาก่อนการแสดงออกทางภาษา
-ภาษาที่ไม่ใช่คำพูดมาก่อนภาษาพูด
-ให้เวลาเด็กได้พูด
-คอยให้เด็กตอบ(ชี้แนะหากจำเป็น)
-เป็นผู้ฟังที่ดีและโต้ตอบอย่างฉับไว(ครูไม่พูดมากเกินไป)
-เด็กไม่ได้เรียนรู้ภาษาจากการฟังเพียงอย่างเดียว
-ให้เด็กทำกิจกรรมกลุ่ม เด็กพิเศษได้มีแบบอย่างจากเพื่อน
-กระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง(ครูไม่คาดการณ์ล่วง
หน้า)
-เน้นวิธีการสื่อความหมายมากกว่าการพูด
-.ใช้คำถามปลายเปิด
-เด็กพิเศษรับรู้มากเท่าไหร่ ยิ่งพูดได้มากเท่านั้น
-ร่วมกิจกรรมกับเด็ก
การสอนตามเหตุการณ์(Incidental Teaching)
ภาพที่ 1
เมื่อเราเห็นว่าน้องกำลังทำอะไรหรือกำลังต้องการความช่วยเหลือ ให้
เราเข้าไปถามเด็กว่า "หนูทำอะไรรอยู่คะ ถ้าเด็กไม่ตอบ ให้ถาม "หนู
กำลังใส่ผ้ากันเปื้อนหรอคะ " ถ้าเด็กไม่ตอบให้ครูถามอีกว่า "เดี๋ยวครู
ช่วยใส่ผ้ากันเปื้อนให้นะคะ" ครูให้เด็กพูดคำว่า "ผ้ากันเปื้อน" ตามครู
ถ้าเด็กยังไมีมีการตอบอันนี้เป็นวิธีที่สุดท้ายจริงๆ คือ ใส่ให้เด็กเลย
แต่ส่วนใหญ่เด็กก็มาไม่ถึงขั้นนี้
ภาพที่ 2
เมื่อเราเห็นว่าน้องกำลังทำอะไรหรือกำลังต้องการความช่วยเหลือ ให้
เราเข้าไปถามเด็กว่า "หนูทำอะไรรอยู่คะ ถ้าเด็กไม่ตอบ ให้ถาม "หนู
กำลังติดกระดุมอยู่หรอคะ " ถ้าเด็กไม่ตอบให้ครูถามอีกว่า "เดี๋ยวครู
ติดกระดุมช่วยนะคะ" ครูให้เด็กพูดคำว่า "ติดกระดุม" ตามครู ถ้า
เด็กยังไมีมีการตอบอันนี้เป็นวิธีที่สุดท้ายจริงๆ คือ ติดให้เด็กเลย แต่
ส่วนใหญ่เด็กก็มาไม่ถึงขั้นนี้
วีดีโอที่น่าสนใจ
เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะทางการช่วยเหลือตนเองของเด็กพิเศษ
เรียนร่วมในชั้นเรียน ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นจะเน้นเรื่องการการกล้ามเนื้อ
มัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ และฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ทำให้
เด็กพิเศษเหล่านี้สามารถช่วยเหลือตนเองได้
ต่อจากนั้นอาจารย์ก็ให้จับคู่ทำกิจกรรม ศิลปะบำบัด
อุปกรณ์ |
ภาพวาดของเรา |
กำลังระบายสีอย่างตั้งใจ |
เสร็จแล้วผลงานของเราทุกคน |
จากนั้นอาจารย์ก็สรุปผลงานของนักศึกษาโดยการทายนิสัยจากภาพ
วาดของแต่ละคู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งมีภาพที่สวยงามแต่แตกต่างกัน
ออกไป กิจกรรมที่อาจารย์จัดให้นักศึกษาล้วนมีประโยชน์อย่างมาก
คือ เป็นการฝึกสมาธิของเด็ก เด็กได้ฝึกคิดและมีการวงาแผนการ
ทำงาน เด็กมีจินตนาการที่สร้างสรรค์แปลกใหม่ มีความกล้าคิดกล้า
แสดงออก โดยถ่ายทอดจากผลงานของตนเอง
เมื่อเสร็จกิจกรรมนี้แล้วอาจารย์ก็ทำการทดสอบหลังเรียน
ว่าที่เรียนไปได้ความรู้อะไรบ้าง
ซึ่งได้รับคำตอบที่หลากหลายจากกลุ่มเพื่อนๆ ดังนี้
-ห้องเรียนต้องมีตัวหนังสือที่เยอะ
-ครูไม่ควรสนใจคำพูดที่พูดไม่ชัดของเด็ก
-ครูไม่ควรขัดจังหวะขณะเด็กพูด
-ครูไม่ควรเปรียบเทียบการพูดของเด็ก
-ครูควรใช้คำถามปลายเปิด
-ครูร่วมกิจกรรมกับเด็ก
ครูควรกระตุ้นให้เด็กบอกความต้องการของตนเอง
อาจารย์นำเข้าสู่บทเรียนด้วยมีกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ โดย
การศึกษาค้นคว้านอกตำราเรียน เพื่อให้นักศึกษามีความคิดที่กว้าง
ไกล มาให้นักศึกษาได้ลองฝึกคิด มีการสอนอย่างสนุกสนานทำให้มี
ความสุขมากค่ะที่ได้เรียนกับอาจารย์ และอาจารย์จัดรูปแบบ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา
ได้พูดและแสดงความคิดเห็นต่างๆ ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเองและสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์
นำความรู้ที่ได้ในเรื่องของ การสอบบรรจุราชการครู ไปเล่าถ่ายทอด
ให้พี่ๆหรือญาติเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหรือตัดสินใจกับเรื่องการ
สอบได้ค่ะ ส่วนเนื้อหาก็ทำให้หนูทราบในสิ่งที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่า
ควรจะส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กได้อย่างไรบ้าง ซึ่งการส่งเสริม
ทักษะทางภาษาของเด็ก เป็นเรื่องที่สำคัญคนเป็นครูไม่ควรมองข้าม
ซึ่งดิฉันจะจัดการเรียนการสอนโดย การเล่านิทาน ร้องเพลง ท่องคำ
คล้องจอง เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะทางภาษาให้กับเด็ก ซึ่งครูต้อง
แม่นพัฒนาการของเด็กว่าเด็กวัยนี้มีพัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง จึงจะ
จัดกิจกรรมกับเด็กให้อย่างเหมาะสมได้
เทคนิคการสอนของอาจารย์
อาจารย์นำเข้าสู่บทเรียนด้วยมีกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ โดย
การศึกษาค้นคว้านอกตำราเรียน เพื่อให้นักศึกษามีความคิดที่กว้าง
ไกล มาให้นักศึกษาได้ลองฝึกคิด มีการสอนอย่างสนุกสนานทำให้มี
ความสุขมากค่ะที่ได้เรียนกับอาจารย์ และอาจารย์จัดรูปแบบ
การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญโดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา
ได้พูดและแสดงความคิดเห็นต่างๆ ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วย
ตนเองและสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างสร้างสรรค์
การนำไปประยุกต์ใช้
นำความรู้ที่ได้ในเรื่องของ การสอบบรรจุราชการครู ไปเล่าถ่ายทอด
ให้พี่ๆหรือญาติเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกหรือตัดสินใจกับเรื่องการ
สอบได้ค่ะ ส่วนเนื้อหาก็ทำให้หนูทราบในสิ่งที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่า
ควรจะส่งเสริมทักษะทางภาษาของเด็กได้อย่างไรบ้าง ซึ่งการส่งเสริม
ทักษะทางภาษาของเด็ก เป็นเรื่องที่สำคัญคนเป็นครูไม่ควรมองข้าม
ซึ่งดิฉันจะจัดการเรียนการสอนโดย การเล่านิทาน ร้องเพลง ท่องคำ
คล้องจอง เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะทางภาษาให้กับเด็ก ซึ่งครูต้อง
แม่นพัฒนาการของเด็กว่าเด็กวัยนี้มีพัฒนาการเป็นอย่างไรบ้าง จึงจะ
จัดกิจกรรมกับเด็กให้อย่างเหมาะสมได้
การประเมิน(Evaluate)
การประเมินตนเอง
วันนี้เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เก็บผมเรียบร้อยดีค่ะ วันนี้
เรียน 2 กลุ่ม รวมกันตอนแรกไม่มีที่นั่งหนูเลยได้นั่งแถว 2 แต่เพื่อน
คุยกันเลยเรียนไม่ค่อยรู้เรีอง หนูเลยขึ้นมานั่งข้างหน้าที่ใกล้กับอีก
กลุ่มเรียนนึง จากนั้นก็ตั้งใจฟังเรื่อง สอบบรรจุ ที่รุ่นพี่มาเล่าให้
อาจารย์ฟังจากนั้นอาจารย์ก็นำมาถ่ายทอดให้กลับพวกหนูได้เตรียม
ตัว ทำให้หนูคิดตารางการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมความพร้อมในการ
สอบบรรจุ เพราะถ้าจะไปอ่าน 3 เดือนสุดท้ายเวลาไม่พอ เพราะรุ่นพี่
เริ่มเตรียมตัวตั้งแต่ปี 4 ค่ะ ทำให้รุ่นพี่สอบบรรจุได้อันดับที่ 2 เรื่อง
บรรจุราชการหนูพยายามจดบันทึกอย่างละเอียดและชัดเจนค่ะ เพราะ
พี่หนูกำลังมองหาที่ลงสอบแต่ไม่รู้จะลงที่ไหน และเลือกอย่างไรบ้าง
ทำให้พี่หนูเครียดมาก ตอนเย็นหนูเลยโทรไปเล่าให้พี่หนูฟัง ทำให้พี่
หนูตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ และหนูก็สนใจเนื้อหาที่เรียน เพราะเรียนกับ
อาจารย์รู้สึกมีความสุขบรรยากาศผ่อนคลายไม่ตึงเครียดทำให้เกิด
การเรียนรู้ได้ดี และตั้งใจทำกิจกรรมกับเพื่อนและอาจารย์ ร่วมสนทนา
โต้ตอบกับเพื่อนและครู อาจมีตอบผิดบ้างถูกบ้างค่ะ อันไหนที่เรา
ตอบไม่ถูกก็จะพยายามทำความเข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าใจจริงๆจะถาม
อาจารย์ในชั่งโมงเลยค่ะ
การประเมินเพื่อน
วันนี้เรียนรวมกัน 2 กลุ่มเรียนค่ะ ทำให้การแต่งกายมีความแตกต่างกัน
บ้าง ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่ก็ตั้งใจเรียนกันดี มีการแสดงความคิดเห็น
ต่างๆ และร่วมตอบคำถามกับเพื่อนคนอื่นๆและอาจารย์ แต่อาจมี
เพื่อนบางกลุ่มที่คุยกันบาง แต่ทุกคนก็ตั้งใจเรียนจดบันทึกตามที่
อาจารย์สอน อละให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ศิลปะ
บำบัด ซึ่งเพื่อนทุกคนก็ตั้งใจทำผลงานของตนเองให้ดีที่สุดค่ะ และมี
การแลกเปลี่ยนความคิดในการตอบคำถามของเพื่อนๆต่างกลุ่มเรียน
ค่ะ ซึ่งเพื่อนก็ตอบคำถามได้ดีทุกคนเลยค่ะ ทำให้เราได้เรียนรู้เพื่อน
ต่างกลุ่มเรียนมากขึ้นค่ะ
การประเมินอาจารย์
วันนี้อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย เ็นแบบอย่างที่ดีให้
กับนักศึกษา มีเทคนิคการสอนที่หลากหลาย เช่น การร้องเพลง การ
ทำกิจกรรมศิลปะบำบัด การทายนิสัยจากคำตอบที่ได้จากภาพ และ
อาจารย์มีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้นักศึกษาได้เข้าใจ
อย่างแท้จริง เช่น มีเด็กคนหนึ่ีง ไม่เคยพูดเลย ไม่เคยได้ยินเสียงของ
เด็กคนนี้เลย และแต่ละเช้าคุณครูท่านนี้ก็จะทักทายสวัสดีเด็กเป็น
ประจำ แต่เด็กคนนี้ไม่เคยพูดอะไรเลย แต่มาวันนี้คุณครูเดินผ่านหน้า
ห้องตามปกติ ก็เห็นน้องขึ้นไปยืนบนโต๊ะครู แล้วตะโกนเป็นชื่อของ
ตนเองอย่างเสียงดัง ซึ่งตอนแรกคุณครูท่านนั้นก็ตกใจ แต่ก็แอบดีใจ
ว่าสิ่งที่ครูทำทุกวันนั้นเกิดประโยชน์กับตัวเด็ก ซึ่งอาจารย์จะถ่ายทอด
การยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของอาจารย์เองเลย ทำให้นักศึกษา
มองเห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น
การศึกษาเพิ่มเติม
-ฝึกร้องเพลง
-ฝึกเขียนตัวกลมหัวเหลี่ยม
-สัปดาห์หน้าอาจารย์จะไลค์เพลงเด็กปฐมวัยมาให้นักศึกษา
หมายเหตุ
-วันนี้เรียนรวมกันทั้ง 2 กลุ่มเรียน เนื่องจากอาจารย์ติดธุระ
สัปดาห์หน้าเรียนเวลาปกติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น